สุดยอดสงครามสายเลือดต้องสาป Tougen Anki ปะทะเดือดทายาทโมโมทาโร่

เฮ้ยพวกแก เคยรู้สึกมั้ยว่าชีวิตที่เคยสงบสุขมาตลอด อยู่ๆ ก็พังทลายลงในพริบตาเดียว ถ้าเคยแกคือเพื่อนกับอิจิโนเสะ ชิกิ ตัวเอกสุดเดือดจาก Tougen Anki สงครามเลือดอสูร เลยว่ะ เรื่องมันเริ่มต้นแบบเรียบง่ายสุดๆ ชิกิเป็นแค่เด็กมัธยมปลายเลือดร้อนทั่วไป ที่มีพ่อบุญธรรมสุดเท่เป็นอดีตมือสังหารคอยดูแล แต่ใครจะไปคิดว่าเบื้องหลังชีวิตธรรมดาๆ เนี่ย มันมีบางอย่างที่โคตรจะไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ แล้ววันหนึ่งโครม โลกทั้งใบของชิกิก็แตกสลาย เมื่อพ่อบุญธรรมของเขาถูกสังหารต่อหน้าต่อตาโดยฝีมือของใครบางคนที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน คนที่ลงมือคือ โมโมทาโร่ ไม่ใช่โมโมทาโร่ในนิทานที่เราเคยฟังตอนเด็กๆ ที่ออกไปปราบยักษ์โอนิใจดี แต่เป็นโมโมทาโร่ในเวอร์ชันโคตรดาร์ก เป็นองค์กรนักฆ่าเลือดเย็นที่ตั้งปณิธานว่าจะล้างบางเผ่าพันธุ์ โอนิ หรืออสูรให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้ และที่ช็อกยิ่งกว่านั้นคือตัวของชิกิเองนี่แหละ ที่จู่ๆ พลังลึกลับในตัวก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับความจริงที่ว่าเขามีสายเลือดของ โอนิ อยู่ในตัว ใช่แล้วเพื่อนไอ้เด็กหนุ่มหัวร้อนคนนี้ คือทายาทของเผ่าพันธุ์ที่ถูกตามล่าอย่างไม่ลดละ มันคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิตและศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์ จากเด็กหนุ่มธรรมดา ชิกิต้องก้าวเข้าสู่โลกที่เขาไม่เคยรู้จัก โลกที่เต็มไปด้วยการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างสองสายเลือดที่เกลียดชังกันมาตั้งแต่โบราณกาล โมโมทาโร่ ผู้สืบทอดพลังปราบอสูร และ โอนิ ผู้มีสายเลือดปีศาจไหลเวียนอยู่ในกาย ชิกิที่เพิ่งจะตื่นรู้ในพลังของตัวเอง ยังควบคุมมันไม่ได้ดั่งใจเลยด้วยซ้ำ เขาเหมือนลูกวัวที่หลงเข้าไปในดงเสือ แต่ในใจของเขามีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือการล้างแค้น เขาต้องแกร่งขึ้น ต้องเก่งขึ้น เพื่อตามล่าคนที่ฆ่าพ่อของเขาให้จงได้ แต่เส้นทางนี้มันไม่ง่ายเลยว่ะเพื่อนเอ๋ยชิกิต้องเข้าไปฝึกฝนพลังของตัวเองที่ โรงเรียนราเซ็ตสึ สถาบันลึกลับที่รวบรวมเหล่าผู้มีสายเลือดโอนิจากทั่วประเทศเอาไว้ ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนธรรมดาๆ แต่มันคือสนามรบย่อมๆ ที่ทุกคนต้องฝึกฝนวิชาการต่อสู้ แลกเปลี่ยนเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามที่อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ ที่โรงเรียนแห่งนี้ ชิกิได้เจอกับเพื่อนพ้องและคู่แข่งมากมาย แต่ละคนต่างก็มีปูมหลังและความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป มีทั้งคนที่พร้อมจะจับมือสู้ไปกับเขา และมีทั้งคนที่จ้องจะขย้ำเขาอยู่ตลอดเวลา มันคือการพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญ ว่าเขาจะสามารถก้าวข้ามความอ่อนแอในจิตใจ และควบคุมพลังอสูรอันเกรี้ยวกราดที่หลับใหลอยู่ภายในได้หรือไม่ ความน่าสนใจของ Tougen Anki ไม่ได้มีแค่ฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ที่สาดพลังใส่กันแบบไม่มียั้งนะเว้ย แต่มันคือการพาเราไปสำรวจปมขัดแย้งที่ลึกซึ้งกว่านั้น คำถามที่ว่า ใครคือฝ่ายถูก ใครคือฝ่ายผิด มันเริ่มไม่ชัดเจนอีกต่อไป เมื่อเราได้เห็นเรื่องราวจากทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่งโมโมทาโร่ที่เชื่อว่าการกำจัดโอนิคือการปกป้องมนุษยชาติ และฝั่งโอนิที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ตัวเอง มันคือสงครามที่เต็มไปด้วยสีเทา ไม่มีใครขาวสะอาดหรือดำมืดไปซะทีเดียว แต่ละตัวละครต่างก็มีเหตุผลและความเชื่อของตัวเองที่น่าเห็นใจ ทำให้เราในฐานะคนดูต้องคอยลุ้นและเอาใจช่วยไปกับทุกการตัดสินใจของพวกเขา โดยเฉพาะตัวชิกิเอง ที่ต้องแบกรับทั้งความแค้นและความสับสนในตัวเอง เขาจะเลือกเดินบนเส้นทางแห่งการแก้แค้นที่มืดมิด หรือจะค้นพบหนทางใหม่ที่จะยุติสงครามที่ยาวนานนี้ได้ อนิเมะเรื่องนี้งานภาพคือสวยตาแตกมาก ลายเส้นคมกริบ การดีไซน์ตัวละครมีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะเวลาที่เหล่าโอนิปลดปล่อยพลังออกมา มันจะมีออร่าและลวดลายปรากฏขึ้นบนร่างกายที่โคตรเท่ ฉากต่อสู้ก็ทำออกมาได้ดุเดือดเลือดพล่าน สมชื่อ สงครามเลือดอสูร จริงๆ การเคลื่อนไหวรวดเร็ว ท่าโจมตีทรงพลัง เอฟเฟกต์แสงสีเสียงจัดเต็ม ดูแล้วเลือดในกายมันสูบฉีด อยากจะลุกขึ้นไปตะโกนเชียร์เลยทีเดียว บอกเลยว่าใครที่เป็นแฟนการ์ตูนแนวแอ็คชั่น โชเน็น ที่มีกลิ่นอายดาร์กแฟนตาซีผสมอยู่ เรื่องนี้คือห้ามพลาดเด็ดขาด มันมีครบทุกรสชาติ ทั้งความมันส์ ความดราม่า มิตรภาพ ความแค้น และการเติบโตของตัวละครที่น่าติดตาม ชิกิจะแข็งแกร่งพอที่จะล้างแค้นให้พ่อของเขาได้หรือไม่ แล้วสงครามระหว่างโมโมทาโร่กับโอนิจะลงเอยอย่างไร ความลับเบื้องหลังสายเลือดของเขาคืออะไรกันแน่ ทุกคำถามรอให้พวกแกเข้าไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเองใน Tougen Anki สงครามเลือดอสูร แล้วแกจะรู้ว่าบางครั้งอสูรที่น่ากลัวที่สุด อาจไม่ได้มีเขาหรือกรงเล็บที่แหลมคม แต่เป็นอสูรที่อยู่ในใจของมนุษย์เรานี่เอง ไปดูซะแล้วมาคุยกันว่าแกจะอยู่ทีมโมโมทาโร่ หรือทีมโอนิ มันคือการเดินทางที่โคตรจะเข้มข้นและคาดเดาไม่ได้ รับรองว่าถ้าได้ลองดูตอนแรกแล้ว แกจะหยุดดูไม่ได้จนกว่าจะถึงตอนล่าสุดแน่นอน ไปเปิดโลกแห่งการต่อสู้เหนือจินตนาการ ที่ซึ่งโชคชะตาของสองเผ่าพันธุ์แขวนอยู่บนเส้นด้าย แล้วมาดูกันว่าสายเลือดไหนที่จะเป็นผู้กำหนดประวัติศาสตร์ครั้งใหม่นี้